วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

My self



       'กุ้งแห้งๆได้ยินคำนี้ทีไรต้องหันขวับไปดูทุกที อันที่จริงแล้วฉันชื่อนุ่ม นาง(อยาก)สาววทันยา  มุนินโท กำลังจะก้าวขึ้นชั้นม.โรงเรียนมหาวชิราวุธฯอันทรงเกียรติ   และเป็นหนึ่งในสมาชิกชมรมศิลปะมหาวชิราวุธอันทรงคุณค่า ฉันเกิดมาพร้อมกับครอบครัวที่อบอุ่นในบ้านหลังเล็กๆและเติบโตขึ้นมาพร้อมกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ จนได้ค้นพบความสามรถซึ่งมีที่มาจากความชอบ คือการเล่นไวโอลินที่ทำให้ได้เปิดโลกกว้าง ได้ทำสิ่งที่ 'ไม่เคยทำ' ใช่ว่าจะ 'ทำไม่ได้'
         
         ทั้งการเล่นดนตรีสร้างสีสันในงานแต่งงาน


            การเล่นคอนเสร์ติเล็กๆที่ยิ่งใหญ่



            จนวันหนึ่งการเล่นไวโอลินได้พาไปพบกับความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต คือการได้เป็นหนึ่งในตัวแทนเยาวชนจังหวัดสงขลาแสดงแสดงคอนเสิร์ตร่วมกับวง Thailand Youth Ochrestra ที่ศูนย์ประชุมแห่งประเทศไทย



       

Home

ยินดีต้อนรับสู่โลกใบใหม่ ของคนหัวใจใสๆ





คำเตือน!!
  • เหมะสำหรับผู้คนทุกเพศทุกวัยที่หัวใจยังเป็นเด็ก
  • ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำ เพราะจะทำให้บุตรหลานของท่านอยากรู้อยากเห็น

Inspiration Club

ค้นหาและพิสูจน์ตัวเอง !

สำหรับคณะศิลปศาสตร์ สาขาจิตวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หรือคณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นสองคณะสองสถาบันที่ฉันอยากเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ซึ่งก่อนที่เราจะได้เข้าไปเรียนในคณะที่เราชอบนั้น ฉันคิดว่าเรา(ทุกคน)ควรจะได้ศึกษาวิชาที่จะต้องเรียนก่อน เพื่อจะได้รู้ว่าเป็นสิ่งที่เราชอบมันใช่จิงหรือเปล่าฉันจึงได้ทำการค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้นจนได้พบว่าด้านจิตวิทยานี้จะต้องเรียนทั้งด้านมนุษย์ศาสตร์ สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ทั่วไป(บางมหาวิทยาลัยเน้นด้านชีวะวิทยา) ภาษาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ซึ่งจะเน้นไปทางด้านสถิติ ส่วนวิชาที่เกี่ยวข้องโดยตรงนั้นคือจิตวิทยาทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นจิตวิทยาในพัฒนาการทุกช่วงวัย (เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมทั้งการเรียน การทำงาน) การตรวจจิต และจิตบำบัดเป็นต้น จากที่ได้ทำความรู้จักกับวิชาเหล่านี้แล้ว ตอนนี้ฉันได้ค้นพบตัวเองแล้วว่าสิ่งที่ฉันชอบนั้นเป็นสิ่งที่ใช่สำหรับฉันด้วย! 
       จาการค้นหาและพิสูจน์ตัวเองนั้น ฉันเชื่อว่าจะทำให้เราได้เดินไปในทางที่ชอบอย่างมีความสุข ไม่ต้องผิดหวัง หรือเสียใจทีหลังว่ามันไม่ใช่อย่างที่คิดๆกันไว้ ฉะนั้นจงมีความฝัน รู้จักความฝันนั้น และทำให้มันเป็นจริงค่ะ สู้ๆนะคะูู^^V

          

Learning Club

  ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ   

       เมื่อในโลกนี้มีหลายอย่างที่เราไม่รู้ ความลับของธรรมชาตินั้นมีมากมาย อะไรเป็นเครื่องพิสูจน์ความจริงเหล่านั้น สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งลี้ลับที่ยังคงมีการพิสูจน์หาความจริง วันนี้เราจะนำเรื่องราวมาบอกเล่าที่อาจจะทำให้กระตุกต่อมเอ๊ะของใครหลายๆคน

           สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาเป็นอาณาเขตส่วนหนึ่งในมหาสมุทรแอตแลนติกซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของรัฐฟอลิดาผานบาฮามัสและเปอร์โตริโกมุ่งตรงไปทางตะวันออกจากนั้นก็ย้อนเฉียงกลับไปสู่ทางใต้ตอนเหนือของเบอร์มิวดาอีกซึ่งทำให้อาณาบริเวณแห่งนี้ กลายเป็นรูปสามเหลี่ยม ที่เป็นแหล่งกำเนิด ปรากฏการณ์ อันลี้ลับ มหัศจรรย์ขึ้น เริ่มตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ในปี ค.ศ. 1945 มาจนถึงปัจจุบัน เครื่องบินจำนวนกว่า 100 เครื่อง และเรือเดินสมุทร จำนวนอีกมากหลายได้ หายไปในบรรยากาศ และพื้นทะเลของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาแห่งนี้พร้อมกับชีวิตมนุษย์นับพันตอลดเวลา 20 ปีที่ผ่านมาอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งเครื่องบินที่หายไปเหนือพื้นทะเลแห่งนี้ ส่วนมากก่อนที่จะหายการติดต่อกับฐานปฏิบัติการณ์ หรือสถานีปลายทางเป็นไปอย่างปกติ และสภาพของบรรยากาศ และทัศนะวิสัย ก็สงบ และแจ่มใสดี ไม่มีวี่แววของพายุร้ายใดๆ แต่แล้วเครื่องบินเหล่านั้นก็จะหายไปอย่างฉับพลันโดยไม่มีร่องรอย ซึ่งนักบินก็ไม่มีโอกาสที่จะแจ้งข่าว-ทาง วิทยุให้หน่วยควบคุม การบินทราบได้ แต่ก็มีเป็นจำนวนมากเหมือนกัน ก่อนที่เครื่องบินจะหายสาบสูญ นักบินมีเวลาพอที่จะแจ้งข่าวผิดปกติมายังฐานปฏิบัติการได้ ซึ่งทุกรายต่างก็แจ้งตรงกันทั้งหมดว่า ไม่สามารถควบคุมกลไกต่างๆ ให้ดำเนินไปตามปกติได้ เข็มทิศประจำเครื่องจะหมุนปั่นไม่สามารถบอกทิศทางได้ ท้องฟ้าจะกลายเป็นสีเหลือง และมองดูคล้ายหมอกหนาทึบ ทั้งๆ ที่เป็นวันที่บรรยากาศแจ่มใส และแดดส่องจ้ามาก่อน และท้องทะเลซึ่งเงียบสงบ กลับปั่นป่วน ขึ้นมาโดยไม่อาจจะทราบสาเหตุได้
       จากเหตุการณเหล่านี้ทำให้มีผู้สนใจในเรื่องความลับของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา และได้ตั้งข้อสันนิษฐานไว้มากมาย เช่น การที่เครื่องบินจะตกหรทอเรืออับปรางนั้นเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่เส้นทางสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาเป็นเส้นทางคมนาคมอย่างชุกชุม จึงทำให้สถิติมีมากกว่าจุดอื่นๆ รวมทั้งการผันแปรของอากาศอย่างฉับพลัน ที่เรียกกันว่า แค๊ท’ การแปรผันของสนามแม่เหล็กหรือแม้กระทั่งการมาเยือนของมนุษย์ต่างดาว
                แต่ไม่ว่าจะสาเหตุใดก็ตามการค้นหาคำตอบของอะไรคงไม่ยากไปกว่าการค้นหาคำตอบจากธรรมชาติซึ่งเป็นสิ่งที่ถือกำเนิดมาก่อนมนุษยชาติ ดังนั้นหากใครรู้สึกเอ๊ะ!อยากรู้คำตอบก็คงต้องเริ่มต้นเก็บเงิน เตรียมกาย เตรียมใจ เพื่อไปพิสูจน์ความจริงของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาแห่งนี้ด้วยตัวเอง ตามสุภาษิตที่ว่าสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นกันแล้วล่ะค่ะ ^^


 ประเทศน่ารู้


คุณเชื่อไหมว่าพื้นที่ทะทรายจะกลายเป็นแหล่งอารยธรรมไปได้
สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ (Arab Republic of Egypt) หรือที่เรียกโดยทั่วไปว่า อียิปต์นี้แหละค่ะ เป็นประเทศในแอฟริกาตะวันออกเฉียงเหนือที่มีประชากรมากที่สุด ซึ่งประชากรอียิปต์ส่วนใหญ่อาศัยบนทั้งสองฝั่งของแม่น้ำไนล์ และคลองสุเอซ พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศเป็นส่วนของทะเลทรายสะฮารา และมีผู้คนอาศัยอยู่เบาบาง   ประเทศอียิปต์เป็นประเทศทีมีประวัติศาสตร์ยาวนาน ถึง 5,000 กว่าปี ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านอารยธรรมโบราณ รวมถึงอนุสาวรีย์โบราณที่น่าตื่นตาที่สุดในโลก ได้แก่ พีระมิด อารามคาร์นัค และหุบเขากษัตริย์ (Valley of the Kings) ในปัจจุบัน อียิปต์ถือว่าเป็นศูนย์กลางทางการเมืองและวัฒนธรรมของโลกอาหรับ ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ทางตอนตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา มีพื้นที่ตั้งแต่ตอนกลางจนถึงปากแม่น้ำไนล์  ประเทศอียิปต์นั้นเน้นไปทางสิ่งปลูกสร้าง และการเกษตรกรรม พร้อมกับการพัฒนาการทางทหารของอียิปต์ที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งแก่ราชอาณาจักร โดยประชาชนจะให้ความเคารพกษัตริย์หรือฟาโรห์เสมือนหนึ่งเทพเจ้า ทำให้การบริหารราชการบ้านเมืองและการควบคุมอำนาจนั้นทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ             และชาวอียิปต์ไม่ได้เป็นเพียงนักเกษตรกรรมและสร้างสรรค์อารยธรรมตัวยงเท่านั้น แต่ยังเป็นนักคิด นักปรัชญา ได้มาซึ่งความรู้ในศาสตร์ต่างๆอีกมากมายตลอดระยะเวลาในการพัฒนาอารยธรรมของตัวเอง และยังเป็นดินแดนที่ผู้คนกำลังมีใจเปิดกว้าง เพื่อค้นหาความจริงของชีวิต                
          ปัจจุบันนี้ อียิปต์ถือว่าเป็นศูนย์กลางทางการเมืองและวัฒนธรรมของโลกอาหรับ ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ทางตอนตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา มีพื้นที่ตั้งแต่ตอนกลางจนถึงปากแม่น้ำไนล์ 
       เห็นอย่างนี้แล้วหลายคนคงอยากไปสัมผัสอารยธรรมบนทะเลทรายกันแล้วสินะคะ ฉันก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ไม่รู้ว่าภาวะโลกร้อนจะส่งผลให้เราต้องพกร่ม พกยาดมกันเพิ่มขึ้นน่ะสิคะ!


ประวัติบุคคลสำคัญ

        ศาสตราจารย์ ดร. ปรีดี พนมยงค์ หรือ หลวงประดิษฐ์มนูธรรม เป็นผู้นำคณะราษฎรสายพลเรือน ผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองของสยามจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย 3 สมัยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่าง ๆ อีกหลายสมัย เป็นผู้ก่อตั้งและผู้ประศาสน์การเพียงคนเดียวของมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง และเป็นผู้ก่อตั้งธนาคารชาติไทย (ปัจจุบัน คือ ธนาคารแห่งประเทศไทย  ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ปรีดีเป็นผู้นำขบวนการเสรีไทยต่อต้านกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น ทำให้ประเทศไทยรอดพ้นจากการเป็นผู้แพ้สงคราม นอกจากนี้ท่านยังได้รับแต่งตั้งเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ในรัชกาลที่ 8 และได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ยกย่องในฐานะ "รัฐบุรุษอาวุโส ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งทางการเมืองสูงสุดของไทย และปรีดีต้องยุติบทบาททางการเมืองหลังเหตุการณ์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลสวรรคต โดยถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว ต่อมาเกิดการรัฐประหาร พ.ศ. 2490 เป็นเหตุให้ท่านต้องลี้ภัยการเมืองไปยังประเทศจีนและฝรั่งเศสรวมระยะเวลากว่า 30 ปี ระหว่างที่ลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ ปรีดีได้ดำเนินการฟ้องร้องผู้ใส่ความหมิ่นประมาทต่อศาลยุติธรรม ผลปรากฏว่าศาลตัดสินให้ชนะทุกคดี และยังได้รับความรับรองจากทางราชการตลอดจนเงินบำนาญและหนังสือเดินทางของไทย แต่ก็ไม่ได้กลับสู่ประเทศไทยอีกเลยจนกระทั่งถึงแก่อสัญกรรมใน พ.ศ. 2526 
ในปี พ.ศ. 2542 ที่ประชุมสมัยสามัญครั้งที่ 30 ขององค์การยูเนสโก ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้มีมติประกาศให้ ปรีดี พนมยงค์ เป็น "บุคคลสำคัญของโลก" และได้ร่วมเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 100 ปี ชาตกาลของท่าน ระหว่าง พ.ศ. 2543 - พ.ศ. 2544 นอกจากนี้นิตยสารเอเชียวีคยังได้เสนอชื่อของท่านเข้าชิงตำแหน่ง "Asian Of The Century" อีกด้วย   
นายปรีดี พนมยงค์ จึงถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของคนไทยผู้มีความสำคัญในศตวรรษนี้ ซึ่งท่านเป็นผู้ที่อุทิศตนเพื่อรับใช้ชาติด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีผลงานมากมายเป็นที่ปรากฏ และมีคุณธรรม อันประเสริฐเป็นแนวทางแห่งชาติ เช่นเดียวกับ บุคคลสำคัญ อื่น ๆ ในประวัติศาสตร์ แต่ฉันคิดว่าชื่อของนายปรีดี จะยังคงเป็นประวัติศาสตร์ต่อไปแม้หลังท่านได้สิ้นชีวิตจากโลกนี้ไปแล้ว ฉันจึงหวังว่าท่านจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนหนุ่มสาวชาวไทยจำนวนไม่น้อยให้หันกลับมาดูแลชาติ บ้านเมืองของเรายิ่งขึ้นค่ะ ^^/


 
                                                                               

 

วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2554

Me My Self

       'กุ้งแห้งๆ' ได้ยินคำนี้ทีไรต้องหันขวับไปดูทุกที อันที่จริงแล้วฉันชื่อนุ่ม นาง(อยาก)สาววทันยา  มุนินโท กำลังจะก้าวขึ้นชั้นม.4 โรงเรียนมหาวชิราวุธฯอันทรงเกียรติ   และเป็นหนึ่งในสมาชิกชมรมศิลปะมหาวชิราวุธอันทรงคุณค่า ฉันเกิดมาพร้อมกับครอบครัวที่อบอุ่นในบ้านหลังเล็กๆและเติบโตขึ้นมาพร้อมกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ จนได้ค้นพบความสามรถซึ่งมีที่มาจากความชอบ คือการเล่นไวโอลินที่ทำให้ได้เปิดโลกกว้าง ได้ทำสิ่งที่ไม่เคยทำ ซึ่งใช่ว่าจะทำไม่ได้ จนวันหนึ่งการเล่นไวโอลินได้พาไปพบกับความภูมิใจที่สุดในชีวิต คือการได้เป็นตัวแทนเยาวชนจากสงขลาแสดงคอนเสิร์ตร่วมกับวง Thailand Youth Ochrestra ที่ศุนย์ประชุมแห่งประเทศไทย ส่วนในอนาคตนั้นฉันอยากจะเป็นนักจิตวิทยา ให้คำปรึกษาและช่วยเหลือคนทางด้านจิตใจ และถ้ามีโอกาสฉันอยากจะศึกษาต่อต่างประเทศเพื่อที่จะได้เผชิญกับโลกที่กว้างขึ้น ..มีหนังสือเล่มหนึ่งแนะนำฉันว่า ความปลอดภัยไม่เคยทำให้ใครเติบโต  ได้ยินแบบนี้แล้วอย่ากลัวที่จะทำในสิ่งที่คิดว่าทำไม่ได้นะคะ ลองค้นหาตัวเองและออกมาเผชิญกับโลกใบนี้ด้วยกันค่ะ ^^V


         ค้นหาและพิสูจน์ตัวเอง !
สำหรับคณะศิลปศาสตร์ สาขาจิตวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หรือคณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นสองคณะสองสถาบันที่ฉันอยากเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ซึ่งก่อนที่เราจะได้เข้าไปเรียนในคณะที่เราชอบนั้น ฉันคิดว่าเรา(ทุกคน)ควรจะได้ศึกษาวิชาที่จะต้องเรียนก่อน เพื่อจะได้รู้ว่าเป็นสิ่งที่เราชอบมันใช่จิงหรือเปล่า? ฉันจึงได้ทำการค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้นจนได้พบว่าด้านจิตวิทยานี้จะต้องเรียนทั้งด้านมนุษย์ศาสตร์ สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ทั่วไป(บางมหาวิทยาลัยเน้นด้านชีวะวิทยา) ภาษาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ซึ่งจะเน้นไปทางด้านสถิติ ส่วนวิชาที่เกี่ยวข้องโดยตรงนั้นคือจิตวิทยาทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นจิตวิทยาในพัฒนาการทุกช่วงวัย (เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมทั้งการเรียน การทำงาน) การตรวจจิต และจิตบำบัดเป็นต้น จากที่ได้ทำความรู้จักกับวิชาเหล่านี้แล้ว ตอนนี้ฉันได้ค้นพบตัวเองแล้วว่าสิ่งที่ฉันชอบนั้นเป็นสิ่งที่ใช่สำหรับฉันด้วย! 
       จาการค้นหาและพิสูจน์ตัวเองนั้น ฉันเชื่อว่าจะทำให้เราได้เดินไปในทางที่ชอบอย่างมีความสุข ไม่ต้องผิดหวัง หรือเสียใจทีหลังว่ามันไม่ใช่อย่างที่คิดๆกันไว้ ฉะนั้นจงมีความฝัน รู้จักความฝันนั้น และทำให้มันเป็นจริงค่ะ สู้ๆนะคะูู^^V

          

วันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2554

The Book

คุณเบื่อไหมค่ะ? 
ในการต้องนั่งเรียนกับอาจารย์อยู่แต่ภายในห้องสี่เหลี่ยม 
ถ้าหากคุณเป็นหนึ่งในคนที่อยากเรียนรู้นอกห้องเรียน วันนี้จะขอพาคุณไปพบกับอาจารย์หลายท่านที่มากด้วย  ประสบการณ์ ซึ่งพร้อมจะมาเล่าเรื่องราวเหล่านั้นให้คุณฟังแล้วค่ะ
             
ร้านคุกกี้เล็กๆแห่งนี้ตั้งอยู่ในซอกหลืบของชั้นวางหนังสือที่จะพาคุณหลบจากโลกอันวุ่นวายเข้าไปสัมผัสบรรยากาศอุ่นๆในร้านคุกกี้ที่มีอาจารย์มากมายคอยมอบแง่คิดๆ มอบแรงบันดาลใจ รวมทั้งกำลังใจ ให้กับแขกที่ได้แวะเวียนเข้ามา ซึ่งอาจารย์ที่ว่านี้ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากสิ่งรอบตัวมากมายของนิ้วกลม นักเขียนผู้มีลีลาในการเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองที่แตกต่าง โดยนำสิ่งรอบตัวที่คนอื่นอย่างเราๆเพียงแค่มองผ่านไปแต่ไม่ได้ใช้ใจ ใช้ความคิด ความรู้สึกดูสักเท่าไหร่ ซึ่งอาจารย์(ทุกคน)ที่ว่านี้ล้วนผ่านมาจากประสบการณ์ทั้งที่ได้เจอ   ได้คุย ได้สัมผัสของเขาทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น เพลง แสตมป์ นักกู้ระเบิด นักบินไร้แขน   คนแรกของโลกที่สอนเราว่า“คำถามสำคัญไม่ใช่เราขาดอะไร แต่เป็นเราที่มีอะไรบ้าง”หรือแม้กระทั่งสก๊อตซ์ไบรต์และฟองน้ำล้างจาน นักเขียนช่างคิดคนนี้ก็ยังยกย่องให้เป็นอาจารย์      ขอยกเรื่องประทับใจ(เป็นพิเศษ)สักเรื่องมาเรียกน้ำย่อยกันก่อนนะคะ เป็นเรื่องของชายเข็นรถที่เยาวราช ได้พูดขอทางอย่างรื่นหูว่า ระวังขาด้วยนะครับ ระวังขาด้วย” เป็นคำพูดที่น่าฟัง ชวนให้คนที่เดินขวางทางอยู่ยอมหลีกด้วยความเต็มใจ ในขณะที่คนอื่นๆ พูดจาหยาบๆ บ้างบีบแตร บ้างก็ข่มขู่  ทำให้คนที่เดินขวางทางต้องจำใจหลีกทาง จากเรื่องราวกลับกลายมาเป็นข้อคิดสั้นๆได้ใจความว่า“เปลี่ยนคำ เปลี่ยนความรู้สึก”ไม่น่าเชื่อนะคะว่าร้านคุกกี้จะสามารถเปลี่ยน'มุมมองความคิดของคนที่ได้เปิดประตู เปิดใจ เข้าไปสัมผัสให้แตกต่างขึ้นมาได้      
อ่านกันมาจนถึงบรรทัดนี้ หลายคนคงบ่นหิวกระหายอยากเข้าไปลิ้มลองร้านคุกกี้แห่งนี้กันแล้วสินะคะ  งั้นอย่ารอช้าดีกว่า รีบเตรียมกาย เตรียมใจ เตรียมทรัพย์สินไปจำนำเงินสักร้อยเก้าสิบบาทเพื่อจ่ายค่ารสชาติใหม่ๆของชีวิตกันได้แล้วตามซอกหนังสือทั่วไปค่ะ :D