วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

Learning Club

  ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ   

       เมื่อในโลกนี้มีหลายอย่างที่เราไม่รู้ ความลับของธรรมชาตินั้นมีมากมาย อะไรเป็นเครื่องพิสูจน์ความจริงเหล่านั้น สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งลี้ลับที่ยังคงมีการพิสูจน์หาความจริง วันนี้เราจะนำเรื่องราวมาบอกเล่าที่อาจจะทำให้กระตุกต่อมเอ๊ะของใครหลายๆคน

           สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาเป็นอาณาเขตส่วนหนึ่งในมหาสมุทรแอตแลนติกซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของรัฐฟอลิดาผานบาฮามัสและเปอร์โตริโกมุ่งตรงไปทางตะวันออกจากนั้นก็ย้อนเฉียงกลับไปสู่ทางใต้ตอนเหนือของเบอร์มิวดาอีกซึ่งทำให้อาณาบริเวณแห่งนี้ กลายเป็นรูปสามเหลี่ยม ที่เป็นแหล่งกำเนิด ปรากฏการณ์ อันลี้ลับ มหัศจรรย์ขึ้น เริ่มตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ในปี ค.ศ. 1945 มาจนถึงปัจจุบัน เครื่องบินจำนวนกว่า 100 เครื่อง และเรือเดินสมุทร จำนวนอีกมากหลายได้ หายไปในบรรยากาศ และพื้นทะเลของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาแห่งนี้พร้อมกับชีวิตมนุษย์นับพันตอลดเวลา 20 ปีที่ผ่านมาอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งเครื่องบินที่หายไปเหนือพื้นทะเลแห่งนี้ ส่วนมากก่อนที่จะหายการติดต่อกับฐานปฏิบัติการณ์ หรือสถานีปลายทางเป็นไปอย่างปกติ และสภาพของบรรยากาศ และทัศนะวิสัย ก็สงบ และแจ่มใสดี ไม่มีวี่แววของพายุร้ายใดๆ แต่แล้วเครื่องบินเหล่านั้นก็จะหายไปอย่างฉับพลันโดยไม่มีร่องรอย ซึ่งนักบินก็ไม่มีโอกาสที่จะแจ้งข่าว-ทาง วิทยุให้หน่วยควบคุม การบินทราบได้ แต่ก็มีเป็นจำนวนมากเหมือนกัน ก่อนที่เครื่องบินจะหายสาบสูญ นักบินมีเวลาพอที่จะแจ้งข่าวผิดปกติมายังฐานปฏิบัติการได้ ซึ่งทุกรายต่างก็แจ้งตรงกันทั้งหมดว่า ไม่สามารถควบคุมกลไกต่างๆ ให้ดำเนินไปตามปกติได้ เข็มทิศประจำเครื่องจะหมุนปั่นไม่สามารถบอกทิศทางได้ ท้องฟ้าจะกลายเป็นสีเหลือง และมองดูคล้ายหมอกหนาทึบ ทั้งๆ ที่เป็นวันที่บรรยากาศแจ่มใส และแดดส่องจ้ามาก่อน และท้องทะเลซึ่งเงียบสงบ กลับปั่นป่วน ขึ้นมาโดยไม่อาจจะทราบสาเหตุได้
       จากเหตุการณเหล่านี้ทำให้มีผู้สนใจในเรื่องความลับของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา และได้ตั้งข้อสันนิษฐานไว้มากมาย เช่น การที่เครื่องบินจะตกหรทอเรืออับปรางนั้นเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่เส้นทางสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาเป็นเส้นทางคมนาคมอย่างชุกชุม จึงทำให้สถิติมีมากกว่าจุดอื่นๆ รวมทั้งการผันแปรของอากาศอย่างฉับพลัน ที่เรียกกันว่า แค๊ท’ การแปรผันของสนามแม่เหล็กหรือแม้กระทั่งการมาเยือนของมนุษย์ต่างดาว
                แต่ไม่ว่าจะสาเหตุใดก็ตามการค้นหาคำตอบของอะไรคงไม่ยากไปกว่าการค้นหาคำตอบจากธรรมชาติซึ่งเป็นสิ่งที่ถือกำเนิดมาก่อนมนุษยชาติ ดังนั้นหากใครรู้สึกเอ๊ะ!อยากรู้คำตอบก็คงต้องเริ่มต้นเก็บเงิน เตรียมกาย เตรียมใจ เพื่อไปพิสูจน์ความจริงของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาแห่งนี้ด้วยตัวเอง ตามสุภาษิตที่ว่าสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นกันแล้วล่ะค่ะ ^^


 ประเทศน่ารู้


คุณเชื่อไหมว่าพื้นที่ทะทรายจะกลายเป็นแหล่งอารยธรรมไปได้
สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ (Arab Republic of Egypt) หรือที่เรียกโดยทั่วไปว่า อียิปต์นี้แหละค่ะ เป็นประเทศในแอฟริกาตะวันออกเฉียงเหนือที่มีประชากรมากที่สุด ซึ่งประชากรอียิปต์ส่วนใหญ่อาศัยบนทั้งสองฝั่งของแม่น้ำไนล์ และคลองสุเอซ พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศเป็นส่วนของทะเลทรายสะฮารา และมีผู้คนอาศัยอยู่เบาบาง   ประเทศอียิปต์เป็นประเทศทีมีประวัติศาสตร์ยาวนาน ถึง 5,000 กว่าปี ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านอารยธรรมโบราณ รวมถึงอนุสาวรีย์โบราณที่น่าตื่นตาที่สุดในโลก ได้แก่ พีระมิด อารามคาร์นัค และหุบเขากษัตริย์ (Valley of the Kings) ในปัจจุบัน อียิปต์ถือว่าเป็นศูนย์กลางทางการเมืองและวัฒนธรรมของโลกอาหรับ ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ทางตอนตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา มีพื้นที่ตั้งแต่ตอนกลางจนถึงปากแม่น้ำไนล์  ประเทศอียิปต์นั้นเน้นไปทางสิ่งปลูกสร้าง และการเกษตรกรรม พร้อมกับการพัฒนาการทางทหารของอียิปต์ที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งแก่ราชอาณาจักร โดยประชาชนจะให้ความเคารพกษัตริย์หรือฟาโรห์เสมือนหนึ่งเทพเจ้า ทำให้การบริหารราชการบ้านเมืองและการควบคุมอำนาจนั้นทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ             และชาวอียิปต์ไม่ได้เป็นเพียงนักเกษตรกรรมและสร้างสรรค์อารยธรรมตัวยงเท่านั้น แต่ยังเป็นนักคิด นักปรัชญา ได้มาซึ่งความรู้ในศาสตร์ต่างๆอีกมากมายตลอดระยะเวลาในการพัฒนาอารยธรรมของตัวเอง และยังเป็นดินแดนที่ผู้คนกำลังมีใจเปิดกว้าง เพื่อค้นหาความจริงของชีวิต                
          ปัจจุบันนี้ อียิปต์ถือว่าเป็นศูนย์กลางทางการเมืองและวัฒนธรรมของโลกอาหรับ ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ทางตอนตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา มีพื้นที่ตั้งแต่ตอนกลางจนถึงปากแม่น้ำไนล์ 
       เห็นอย่างนี้แล้วหลายคนคงอยากไปสัมผัสอารยธรรมบนทะเลทรายกันแล้วสินะคะ ฉันก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ไม่รู้ว่าภาวะโลกร้อนจะส่งผลให้เราต้องพกร่ม พกยาดมกันเพิ่มขึ้นน่ะสิคะ!


ประวัติบุคคลสำคัญ

        ศาสตราจารย์ ดร. ปรีดี พนมยงค์ หรือ หลวงประดิษฐ์มนูธรรม เป็นผู้นำคณะราษฎรสายพลเรือน ผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองของสยามจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย 3 สมัยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่าง ๆ อีกหลายสมัย เป็นผู้ก่อตั้งและผู้ประศาสน์การเพียงคนเดียวของมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง และเป็นผู้ก่อตั้งธนาคารชาติไทย (ปัจจุบัน คือ ธนาคารแห่งประเทศไทย  ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ปรีดีเป็นผู้นำขบวนการเสรีไทยต่อต้านกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น ทำให้ประเทศไทยรอดพ้นจากการเป็นผู้แพ้สงคราม นอกจากนี้ท่านยังได้รับแต่งตั้งเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ในรัชกาลที่ 8 และได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ยกย่องในฐานะ "รัฐบุรุษอาวุโส ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งทางการเมืองสูงสุดของไทย และปรีดีต้องยุติบทบาททางการเมืองหลังเหตุการณ์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลสวรรคต โดยถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว ต่อมาเกิดการรัฐประหาร พ.ศ. 2490 เป็นเหตุให้ท่านต้องลี้ภัยการเมืองไปยังประเทศจีนและฝรั่งเศสรวมระยะเวลากว่า 30 ปี ระหว่างที่ลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ ปรีดีได้ดำเนินการฟ้องร้องผู้ใส่ความหมิ่นประมาทต่อศาลยุติธรรม ผลปรากฏว่าศาลตัดสินให้ชนะทุกคดี และยังได้รับความรับรองจากทางราชการตลอดจนเงินบำนาญและหนังสือเดินทางของไทย แต่ก็ไม่ได้กลับสู่ประเทศไทยอีกเลยจนกระทั่งถึงแก่อสัญกรรมใน พ.ศ. 2526 
ในปี พ.ศ. 2542 ที่ประชุมสมัยสามัญครั้งที่ 30 ขององค์การยูเนสโก ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้มีมติประกาศให้ ปรีดี พนมยงค์ เป็น "บุคคลสำคัญของโลก" และได้ร่วมเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 100 ปี ชาตกาลของท่าน ระหว่าง พ.ศ. 2543 - พ.ศ. 2544 นอกจากนี้นิตยสารเอเชียวีคยังได้เสนอชื่อของท่านเข้าชิงตำแหน่ง "Asian Of The Century" อีกด้วย   
นายปรีดี พนมยงค์ จึงถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของคนไทยผู้มีความสำคัญในศตวรรษนี้ ซึ่งท่านเป็นผู้ที่อุทิศตนเพื่อรับใช้ชาติด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีผลงานมากมายเป็นที่ปรากฏ และมีคุณธรรม อันประเสริฐเป็นแนวทางแห่งชาติ เช่นเดียวกับ บุคคลสำคัญ อื่น ๆ ในประวัติศาสตร์ แต่ฉันคิดว่าชื่อของนายปรีดี จะยังคงเป็นประวัติศาสตร์ต่อไปแม้หลังท่านได้สิ้นชีวิตจากโลกนี้ไปแล้ว ฉันจึงหวังว่าท่านจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนหนุ่มสาวชาวไทยจำนวนไม่น้อยให้หันกลับมาดูแลชาติ บ้านเมืองของเรายิ่งขึ้นค่ะ ^^/


 
                                                                               

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น